1.มีใบอนุญาตเปิดสอนหรือไม่ ?

ให้นักเรียนดูใบอนุญาต ของ โรงเรียนที่สอนหรือ สถานที่ที่จะเรียนนั้นๆ

2. ความน่าเชื่อถือของโรงเรียนนั้น

บางที่ ในเว็บไชต์ ดูดี ใหญ่โต แต่ไม่มีใบอนุญาต เป็นร้านนวดทั่วไปแล้วแจ้งเปิดสอน และบางที่เป็นร้านเสริมสวยทำเล็บ ประกาศเปิดสอน แต่ไม่มีใบอนุญาตเปิดโรงเรียน เวลาคนไปเรียนก็ไปซื้อใบประกาศ มาจากกรุงเทพ มาให้ ควรให้คนหรือญาติ ไปดูสถานที่จริง การเรียนจริง และขอดูใบอนุญาต ถ้าจะให้ดี ควรดูหลายๆ ที่ เปรียบเทียบกันไปเลย

3. กงสุลได้ขึ้นทะเบียนโรงเรียนไว้หรือยัง?

โรงเรียนนวดที่เราจะเลือกเรียน สามารถ ไปรับรองเอกสารของโรงเรียนได้ที่กงสุล กระทรวงการต่างประเทศ หลักสี่ แจ้งวัฒนะ ได้หรือไม่

4. สถานที่นั้น เป็นโรงเรียนสอนนวดจริงไหม

เพราะว่า ถ้าสถานที่นั้น ไม่ใช่โรงเรียนผู้เรียนไปเรียน แล้วไม่ได้ความรู้ทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ และถ้าเป็นร้านนวด หรือร้านเสริมสวย ทำเล็บ ร้านทำคิ้ว เปิดสอน เขาจะไม่มีเวลามาสอนเรา พอเรียนไปสักชั่วโมง ลูกค้าเข้ามาแล้ววว ครูที่สอน ก็ต้องวิ่งไปนวดลูกค้า ถามว่า เราเสียเงินเรียน ต้องมานั่ง รอเรียน เฮ้อ... อีกอย่างสถานที่เหล่านั้น ไม่มีประสบการณ์ในการสอนนวดสปา ทำให้เรียนแล้วไม่ได้รับความรู้  เอาเป็นว่า ดูเปรียบเทียบกันแล้ว ตัดสินใจเรียน

5. กรณี เรียนกับรุ่นพี่ หรือคนรู้จัก จบแล้วหาใบประกาศมาให้

มีรุ่นพี่บางคน บอกว่า จะสอนให้แล้วจัดหาใบประกาศมาให้ อันนี้ขอแนะนำว่า

1. ค่าเรียนไม่ต่างกัน แต่ ไม่ได้เรียนหลากหลายได้เรียนแต่ปฏิบัติทำให้เวลาไปสอบมาตรฐานแล้วไม่ค่อยผ่าน

2. ไม่มีการบันทึกลงเวลาเรียน เวลาทางการหรือว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบท่านก็ไม่มีการเรียนจริง

3. บางคนถูกถ่ายทอดมาแบบรุ่นต่อรุ่น ทำให้ บางท่าที่กระทรวงสาธารณสุข ได้งดใช้ในการนวดไทย แต่ว่า บางคนยังนำมาใช้อยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้

4. ไม่ได้เรียนเรื่อง กายวิภาคศาสตร์และสรีระวิทยา ซึ่งมีความสำคัญต่อการเรียนนวด

6. ต้องพิจารณาว่าโรงเรียนนั้น ใช้การโฆษณาดึงดูดใจให้คนเชื่อ และบางที่ มีการตั้งชื่อเว็บหรือชื่อโรงเรียนใกล้เคียงโรงเรียนเรา

เช่น...

1.มีการโฆษณา ว่า สามารถ ส่งคนไปนอก หลายประเทศ เหมือนกับบอกว่าเขามีส่งคนงานไปทำงานได้ ซึ่งอาจทำให้ผู้ที่ไม่รู้หลงเข้าไปเรียนแล้ว ไม่ได้ไปตามที่โฆษณาไว้ ประเทศที่ไปได้จริง ก็ไม่ อยู่ระดับต้น ส่วนมากจะเป็น แถบตะวันออกกลาง เช่น บาเรนห์ การ์ต้า ดูไบ คูเวต หรือ จีน รัสเซีย เป็นต้น ซึ่งประเทศเหล่านี้ สามารถไปได้อยู่แล้ว

2. มีการโฆษณาว่าเรียนฟรี ตรงนี้ ต้องพิจารณาให้ดี เพราะว่า เมื่อมีต้นทุน แล้วย่อมไม่มีฟรีใช่ไหม เพราะฉะนั้นเราต้องดูเงื่อนไข ให้ดีก่อนตัดสินใจเรียน

3. มีการทุ่มโฆษณา ต่างๆ นาๆ ไม่ว่าจะเป็นให้ขึ้น หน้าโฆษณาของกูเกิล เพื่อให้คนเข้าไปเรียนมากๆ เพราะฉะนั้นเราต้อง พิจารณาให้ดี

4.ตั้งชื่อเว็บให้ใกล้เคียงโรงเรียนเราเช่น โรงเรียนนวดไทยสปา สุรนารี เขาจะตั้งชื่อให้คนจำสับสน เช่น ชื่อ ศูนย์เรียนนวด ไจ สปา ซึ่งทำให้คนที่ไม่รู้จักไปเรียนผิดที่ และมารู้ทีหลังว่า ผิดโรงเรียน

 

7.  ต้องพิจารณาว่า สถานที่เรียนอยู่ใกล้บ้านไหม หรือมีหอพักให้นักเรียนไหม

นักเรียนต้องประเมิน ค่าใช้จ่ายในการเรียน เช่น ถ้าอยู่ใกล้บ้าน ค่าครองชีพก็ถูกลง เช่น สมมติว่านักเรียน บ้านอยู่ต่างจังหวัด แล้วเดินทางมาเรียนกรุงเทพ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ต้องสูง เช่น ที่พัก ค่ากิน ค่าพาหนะ ค่าอุปกรณ์ อาจต้องได้จ่ายอีก และยังต้องเจอสิ่งแวดล้อมที่อันตรายอีกด้วย

8. โรงเรียนนวดมีหอพักหรือว่า ห้องพักที่เป็นสัดส่วนสะดวกสบายไหม?

คือถ้าโรงเรียนไม่อยู่ใกล้บ้าน ต้องถามว่ามีที่พักไหม มีค่าใช้จ่ายในการพักไหม อย่างไร การอยู่การกิน สะดวกไหม ความปลอดภัย ของหอพักเป็นอย่างไร ตรงนี้เราต้องพิจารณา มีนักเรียน บางคน เดินทางมาจาก ต่างประเทศ แล้วไปเรียนใน กรุงเทพฯ พอตกเย็นมา มีพวกเด็กแว้น ๆ ซิ่ง รถกันอยู่ถนนหน้าที่พักทุกวัน จนนักเรียนนอนไม่หลับ จนต้องย้ายมาเรียนที่โคราช

9. อุปกรณ์การเรียนการสอนมีอะไรให้บ้าง ?

เราต้องสอบถามโรงเรียนนวดให้แน่ชัด ว่าแจกอุปกรณ์ อะไรบ้าง ซื้ออะไรบ้าง อย่างไร ให้ชัดเจน เพราะมีบางโรงเรียน เก็บค่าอุปกรณ์ การเรียนเพิ่ม ตอนเราไปสมัคร

9. อุปกรณ์การเรียนการสอนมีอะไรให้บ้าง ?

เราต้องสอบถามโรงเรียนนวดให้แน่ชัด ว่าแจกอุปกรณ์ อะไรบ้าง ซื้ออะไรบ้าง อย่างไร ให้ชัดเจน เพราะมีบางโรงเรียน เก็บค่าอุปกรณ์ การเรียนเพิ่ม ตอนเราไปสมัคร

10. ที่เรียนนั้นแสดง ค่าลงทะเบียนชัดเจนไหม โปร่งใสไหม

โรงเรียนนั้น ๆ ได้แสดง แจ้ง ค่าเรียนไว้อย่าง สมบูรณ์ ครบถ้วนหรือเปล่า เพราะบางแห่ง แจ้งราคา เริ่ม ต้นไว้ ต่ำ แต่ พอนักเรียน ไปเรียนได้เดินทางไปถึงแล้ว ราคา ที่ว่า "ได้ใบประกาศนวดไทย ออก มา แค่ 60 ชั่วโมง (ซึ่งไม่สามารถ นำไปสอบวัดฝีมือแรงงานได้เลย)

11. เช็คดูประวัติของโรงเรียนว่า มีประสบการณ์ด้านการเรียนการสอนหรือ ประสบการณ์ในการทำงานมามากน้อยเพียงใด?

บางที่ ไม่มีประสบการณ์ ในการสอน จะทำให้การสื่อความหมาย หรือ การถ่ายทอดวิชาความรู้ ทำให้นักเรียนรู้สึกว่า การเรียนนวด ยาก ดังนั้น เราต้องศึกษาถึงประสบการณ์ของทีมงานอาจารย์สอน เป็นสำคัญ จะสังเกตได้ว่า การสื่อสาร หรือการถ่ายทอดถือว่า เป็นหัวใจสำคัญของการเรียนนวด เพราะฉะนั้น เราต้อง ดูประสบการณ์ การเรียนการสอน หรือ ถ้าหากมีเวลา ควรเข้า ไปดูการเรียนการสอน ก่อนที่จะลงทะเบียนเรียนจริง

12. สถานที่เรียนมาตรฐานไหม?

คำว่ามาตรฐาน จะรวมถึง เครื่องมือหรือ อุปกรณ์ ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนด้วย เมื่อนักเรียนได้มีโอกาสเข้าไปดูสถานที่ ควรมองดูความสะอาด ของโรงเรียนด้วย ตลอดถึง การจัดสรรห้องเรียน หรือห้องให้ความรู้นักเรียน เช่น มุมห้องสมุด ที่อ่านหนังสือ มีอินเตอร์เน็ตให้ค้นคว้า หรือ อุปกรณ์ เครื่องไม้เครื่องมือครบหรือไม่

13. สถานที่ตั้งโรงเรียน

ตั้งอยู่ในที่มีความเจริญไหม? การไปการมาสะดวกไหม? รวมถึง เมื่อเรามาเรียนแล้ว ความสะดวกในการใช้ชีวิตระหว่างเรียนสะดวกสบายไหม? ใกล้แหล่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ธนาคาร ร้านอาหาร หรือ ตลาด

โรงเรียนตั้งอยู่ในย่านที่มีความปลอดภัยไหม เช่น ถ้าสถานที่ตั้งโรงเรียน อยู่ในย่านที่มีผู้คนติดยาหรือชุมชนที่อยู่แบบ แออัด เหมือนสลัม ความปลอดภัยในระยะเวลาเรียนก็ขาดหายไป

และที่สำคัญ สถานที่เรียน ควรอยู่เป็นเอกเทศ ไม่คับแคบแออัด หรือ มีมลภาวะรบกวนการเรียน "มีบางโรงเรียนหรือบางที่ ตั้งอยู่ติดกับร้าน อาหร ก็ผัด กลิ่นฟุ้ง เข้ามา ในโรงเรียน หรืบางวัน ก็มีต้มน้ำปลาร้า ทำส้มตำ ซะงั้น เพราะฉะนั้น เรื่องสถานที่ และความสะดวกสบาย เราต้องมาเป็นอันดับสองรองจาก หลักสูตรของโรงเรียน

14. บรรยากาศการเรียน ?

บรรยากาศ ของการเรียน เมื่อเรามีโอกาสมาดูโรงเรียนจริง ให้เราพิจารณาถึง บรรยากาศของการเรียน เช่น ครูผู้สอนเป็นกันเองไหม อบอุ่นไหม เอาใจใส่หรือเปล่า เมื่อเราได้เข้ามาสัมผัส หรือ ดูการเรียนการสอน เราจะได้รับรู้ถึงบรรยากาศในการเรียนการสอน

ถ้าโรงเรียนไหน เมื่อนักเรียนเรียนจบแล้ว ความผูกพันของเพื่อนร่วมเรียน จะมีมาก เช่น รักกัน ติดต่อ ส่งข่าวสารกัน แจ้งที่ทำงาน สิ่งเหล่านี้ คือ สิ่งที่เป็นผลตามมาจากการเรียนที่ดี มีมนุษย์สัมพันธ์ ระหว่าง เพื่อนร่วมรุ่น ทำให้เกิดความประทับใจในการเรียน

"มีนักเรียนบางคนไปเรียนที่บางโรงเรียน แล้วครูผู้สอน พูดจาไม่ดี เหมือนกับว่าเราไปเรียน แบบเรียนฟรี บางที ก็มี ว่านักเรียนว่า สมองไม่ดี ไม่จำ อย่างนั้นอย่างนี้ ก็มี" ลักษณะ แบบนี้ ของโรงเรียนนวดไทยสปา สุรนารี ไม่มีอย่างแน่นอน ให้เกียรตินักเรียน เป็นพี่เป็นน้องกัน

15. มองดูวิสัยทัศน์ ของผู้บริหารโรงเรียน

เช่น มีระบบการจัดการแบบไหน มีนโยบายการเรียนการสอนอย่างไร มีการพัฒนา ทั้งองค์ความรู้และเรื่องความทันสมัย ในเทคโนโลยี ด้วย สิ่งเหล่านี้ เราสามารถ ที่จะมาดูได้จาก นักเรียนรุ่นพี่ที่เขาได้ทำไว้

คือโรงเรียนที่ดีจะต้อง ทันสมัย และก็คงไว้ซึ่งองค์ความรู้ทางด้านการแพทย์แผนไทย บางโรงเรียนสอนนักเรียนเก่ง แต่ องค์ประกอบด้าน สื่อ ด้าน เทคโนโลยีไม่มีเลย ทำให้เราต้องใช้เวลา ในการเรียนนาน ซึ่ง ทำให้เราเสียเวลา เสียโอกาส ในการที่เราจะไปหาเงินหาทอง ใช่ไหม?

16. สวัสดิการอะไรบ้างที่นักเรียนจะได้รับ

เราต้องถามว่า ทางโรงเรียนมีสวัสดิการส่วนไหนให้บ้าง เช่น มีห้องพัก อินเตอร์เน็ต ห้องสมุด อุปกรณ์การเรียนต่าง ๆ ชุดเสื้อผ้านักเรียน รูปถ่าย เป็นต้น

17. เรียนจบแล้วเกิดความภาคภูมิใจกับที่เรียนไหม?

ถามว่า ถ้าเรามาเรียนโรงเรียนที่มาตรฐาน แล้วเวลาเราจบออกไปแล้ว.. แน่นอน เราต้องเกิดความภูมิใจอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น การเรียนในสถานที่ ที่ไม่มีความภาคภูมิใจ เมื่อจบแล้ว ก็ถือใบประกาศกลับบ้าน

สถานที่มีความภาคภูมิใจ คือแบบไหน(อาจมีคนสงสัย) สถานที่มีความภาคภูมิใจ คือ โรงเรียนที่เปิดสอนถูกต้อง ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบการเรียนการสอนนวดไทย และได้รับอนุญาตให้ออก ใบวุฒิบัตรได้ เป็นโรงเรียนที่ มีระบบ ระเบียบ ในการเรียน มีการเรียนทั้งภาคทฤษฏี และปฏิบัติ รวมถึง การเรียนการสอนในวิชาเนื้อหา ที่เกี่ยวข้องกัน

บางคน จบมา เจ้านาย ถามว่า เรียนจบจากที่ไหน คุณหมอนวด ก็ตอบแบบอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เออ... คือกลัวเจ้าของร้านถามว่า เรียนมาจากที่ไหน เขาสอนอะไรบ้าง มีรูปถ่ายตอนเรียนไหม? ได้รับใบประกาศนียบัตรไหม? เพราะบางคนไม่ได้ไปเรียนในสถานที่ถูกต้องจริง เรียนแบบพี่สอนน้องแล้วก็ไปหาเอาใบประกาศมาให้กัน

18. ชมรมต่างๆ ร้านต่างๆ ที่บอกว่า ศูนย์การเรียน ที่เปิดสอนได้รับการรับรองไหมถ้ามีก็เรียนได้เหมือนกัน

เมื่อเราเสียค่าเรียนแล้ว ก่อนที่จะเรียน เราต้องถามเขาว่า องค์กรของรัฐหน่วยงานไหน ที่รองรับชมรมนั้น กงสุล ประเทศไทย ขึ้นทะเบียนไว้หรือยัง ยกตัวอย่างเช่น มีบางคนไปเรียน ตามชมรม เช่น ชมรมนวดไทยบ้านแร้งกระพือปีก ถามว่า ใครรับรองใบตรงนั้น ออกใบประกาศมาถ้าเราต้องการเอาไปใช้ประโยชน์เมืองนอก แล้ว ใครรับรองตรงนั้น? ให้ว่า คุณคือโรงเรียน

19. ก่อนตัดสินใจเรียนให้สอบถาม คอร์สการเรียนให้แน่ชัด ว่า หลักสูตรนี้ ออกใบประกาศ ให้กี่ชั่วโมง

เพราะเคยได้ยินนักเรียนบอกมาว่า นักเรียนมองดูหลักสูตร แล้ว 7,500 บาท นวดไทย แต่ตอนจบ ใบประกาศ ออกมาแค่ 60 ชั่วโมง แต่ราคาค่าเรียนตั้ง 7,500 บาท เพราะฉะนั้น แล้วต้องดูให้ดี ถามให้แน่ใจ ก่อนตัดสินใจเรียน

20. ระวังบางแห่ง ใช้ชื่อศูนย์การเรียน ใกล้เคียงกับ ที่ที่เขาดังอยู่แล้ว เพื่อให้คนหลงผิดว่าเป็นที่เดียวกัน

ยกตัวอย่าง มีบางที่เป็นร้านทำเล็บ ทำคิ้ว แล้วมาตั้งชื่อศูนย์การเรียนเรียนรู้เป็น ชื่อใกล้เคียงกับโรงเรียนที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว เช่น โรงเรียนเราชื่อ "โรงเรียนนวดไทยสปา สุรนารี" พวกแอบอ้างตั้งชื่อ ใกล้ กัน คือ "โรงเรียนไจสปาโคราช ทำให้ผู้ที่อ่านเข้าใจผิดว่า เป็นที่เดียวกัน หรือสาขาเดียวกัน

21.ได้รับมาตรฐาน ให้เปิดเป็นศูนย์ทดสอบฝีมือแรงงาน หรือเปล่า?

ซึ่งโรงเรียนนวดไทยสปาสุรนารี ได้รับใบอนุญาติให้เป็นสถานที่เปิดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ จาก สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน ภาค 5 นครราชสีมา ซึ่งมีแห่งเดียวสามารถเปิดสอบได้

22. การลดค่าเรียนแบบถูกผิดปกติ จากโรงเรียนที่เขาได้รับมาตรฐาน

มีบางโรงเรียน มีการลดค่าเรียนแบบ เทกระจาด เช่น นวดไทย 1000 บาท นวดเท้า 500 บาท ประมาณนั้น ท่านอย่าเพิ่งดีใจ ว่าได้เรียนราคาถูก ให้ท่านลองคิดดูสิว่า "ถ้าหากโรงเรียนนั้น มาตรฐานสูง คุณภาพดี มีความเอาใจใส่การเรียนการสอน ถามว่า ทำไมต้องลดราคา เหมือนขายผัก ขายปลาในตลาด ที่มันใกล้จะเน่าจะเสีย" สาเหตุที่โรงเรียนนวดไทยเหล่านั้น ลดราคาแบบนั้น เนื่องจากว่า โรงเรียนเหล่านั้น การเรียนการสอน สถานที่ ใบอนุญาต หรือ ไร้คุณภาพ ไม่มีคนไปเรียนด้วย จำเป็นต้องลดราคาค่าเรียนลง เป็นปัญหาให้เราต้องคิดว่า "เอ...ทำไม่ค่าเรียนถูกจัง ว้าาาา"

23. การตัดสินใจขั้นสุดท้ายก่อนเรียน

ให้เราประเมิน แต่ละข้อแต่ละรายละเอียด ว่า เมื่อเรา คิดว่าต้องเสียค่าลงทะเบียนเรียนแล้วทำไม เราไม่ตัดสินใจเรียนโรงเรียนที่มีมาตรฐานการเรียน หละ........................

กดที่นี่ เพื่อติดต่อสอบถาม โรงเรียนนวดไทยสปาสุรนารี โคราช